สายโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมพลาสติกไทยมีความแข็งแกร่งตั้งแต่วัตถุดิบตั้งต้นสำหรับผลิตเม็ดพลาสติก ผู้ผลิตเม็ดและคอมพาวนด์ ผู้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติก ตลอดจนถึงอุตสาหกรรมต่างๆที่ใช้พลาสติกสนับสนุน อาทิ อุตสาหกรรมรถยนต์ หรือ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการต่ออุตสาหกรรมพลาสติกที่เพิ่มสูงของผู้บริโภคทั้งในและนอกประเทศ โดยเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติกไทยเป็นที่ยอมรับในภูมิภาคและมีการส่งออกไปยังตลาดหลักทั่วโลก เนื่องจากประเทศไทยสามารถผลิตเม็ดพลาสติกคุณภาพดี และสามารถขึ้นรูปพลาสติกได้อย่างหลากหลายประเภทด้วยเครื่องจักรที่เหมาะสม ด้วยองค์ประกอบข้างต้น ประเทศไทยจึงเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมพลาสติกในภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง

           อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงมีมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติกมีระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับการส่งออก เนื่องจากมีความต้องการพลาสติกบางประเภท ซึ่งผู้ประกอบการไทยยังขาดความสามารถและเทคโนโลยีในการผลิต หรือไม่มีวัตถุดิบภายในประเทศรองรับ จึงต้องนำเข้ามาในปริมาณสูง อาทิ สินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกบางชนิดที่ใช้กันในท้องตลาด ต้องซื้อบรรจุภัณฑ์จากต่างประเทศมาใช้ทั้งหมด เพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการส่งออก ซึ่งทำให้ต้นทุนสินค้าสูง และเป็นผลกระทบในทางลบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน

           ด้วยเหตุนี้ นิตยสาร Plastics Foresight ฉบับ Plastics Import Replacement & Export Opportunities จึงเผยแพร่บทความและข้อมูลที่ทางสถาบันพลาสติกจัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางการผลักดันให้เกิดผลิตภายในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้าพลาสติก อันจะช่วยลดอัตราขาดดุลผลิตภัณฑ์พลาสติก เพิ่มสายโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมพลาสติกไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการในประเทศ และสร้างโอกาสตลาดส่งออกสินค้าชนิดใหม่ของอุตสาหกรรมพลาสติกไทย ทั้งนี้ นิตยสาร Plastics Foresight ได้สัมภาษณ์คณะทำงานกลุ่มพลาสติก จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ส่งเสริมการทดแทนนำเข้าพลาสติกอย่างจริงจัง เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงหลักการและเหตุผลการทดแทนการนำเข้าอย่างเป็นรูปธรรม ท้ายนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นิตยสาร Plastics Foresight ฉบับนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันอุตสาหกรรมพลาสติกไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น