Plastics Foresight Volume 10 November - December 2013
พลาสติก ยางธรรมชาติ และยางสังเคราะห์ต่างเป็นวัสดุที่มีสมบัติเฉพาะแตกต่างกัน โดยในปัจจุบันเป็นวัสดุสำคัญในการนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการเป็นวัสดุสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตสำคัญต่างๆ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ หรืออุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นต้น โดยวัสดุดังกล่าวสามารถช่วยสร้างรายได้มูลค่าเพิ่มให้กับการผลิตและสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล
ในแต่ละวัสดุนั้นต่างมีจุดเด่นแตกต่างกัน ยกตัวอย่าง พลาสติกมีจุดเด่นที่สำคัญ คือ สามารถนำมาขึ้นรูปได้ง่ายและสามารถนำกลับมาผลิตใช้ซ้ำใหม่ ยางมีจุดเด่นที่สำคัญ คือ ความสามารถในการยืดหยุ่นและทนทานต่อแรงกระแทกต่างๆ แต่ทั้งนี้ในแต่ละวัสดุต่างก็มีข้อจำกัดในการใช้งาน ทั้งนี้ด้วยความก้าวหน้าเชิงวัสดุศาสตร์จึงได้มีการนำวัสดุต่างชนิดมาผสมเข้าด้วยกัน ก่อให้เกิดเป็นวัสดุชนิดใหม่ที่มีจุดเด่นของทั้งสองวัสดุและสามารถตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะได้เป็นอย่างดี สำหรับวัสดุที่เกิดจากการรวมของพลาสติกและยาง คือ เทอร์โมพลาสติกอีลาสโทเมอร์ (Thermoplastics Elastomer : TPE) ที่ในปัจจุบันได้รับความสนใจอย่างมากในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ต้องการวัสดุที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น หรืออุปกรณ์การแพทย์ที่ต้องการวัสดุที่สะอาด ปราศจากการระคายเคืองและปลอดภัย
จากประเด็นที่น่าสนใจดังที่กล่าวไปในข้างต้นนั้น ทางทีมงานวารสาร Plastics Foresight จึงคัดสรรประเด็นเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ รวมถึงข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ในอุตสาหกรรมยางและยางสังเคราะห์ตลอดจนวัสดุลูกผสมอย่าง TPE มานำเสนอแด่คุณผู้อ่านทั้งหลาย สำหรับคอลัมน์บทสัมภาษณ์พิเศษในฉบับนี้ เราได้รับเกียรติจากคุณบุญหาญ อู่อุดมยิ่ง ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มาเป็นผู้ให้ข้อมูล ความรู้ ข้อแนะนำที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมยางและยางสังเคราะห์อย่างเจาะลึกครบถ้วน